ศูนย์ปลูกผมถาวร ปลูกผม Fue ดูแลเส้นผม โรงพยาบาลอินทรารัตน์ปลูกผมถาวรถ่ายรากผมมาตรฐานระดับโรงพยาบาล
เรามีความเชี่ยวชาญในด้านการปลูกผมเฉพาะทาง
การปลูกผม คืออะไร
การปลูกผม เป็นการปลูกผมที่มีขั้นตอนการย้ายเซลล์รากผมในรูปแบบการเจาะเอารากผมออกมา ซึ่งหลักการย้ายรากผมจะใช้หัวเจาะขนาดประมาณ 0.6-1.0 มิลลิเมตร เพื่อเจาะเอารากผมบริเวณท้ายทอย เป็นตำแหน่งที่เส้นผมมีความแข็งแรงมากที่สุด เจาะขึ้นมาด้วยความละเอียดประณีตสูง ในขั้นตอนนี้จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องได้รับการบริการจากผู้ที่มีความชำนาญเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดจนทำให้รากผมเสียหายได้ ดังนั้นการย้ายเซลล์รากผมด้วยวิธีนี้จึงจำเป็นต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง และด้วยเครื่องมือที่มีขนาดเล็กมาก การปลูกผม จึงทำให้รอยแผลที่บริเวณด้านหลังมีความเลือนลางแทบมองไม่เห็น
สาเหตุของอาการผมร่วง แบ่งเป็น 2 กลุ่ม
กรรมพันธุ์ในเพศชาย
ผมร่วงในผู้ชาย มักเริ่มจากมีการถอยร่นของแนวผมทางด้านหน้าลึกเข้าไปเป็นง่าม และเป็นมากขึ้นเรื่อยๆตามอายุ บางคนอาจมี “ศีรษะล้านด้านหลัง” ตรงบริเวณขวัญร่วมด้วย สุดท้ายแล้วถ้าผมยังไม่หยุดร่วง ในบริเวณที่ศีรษะล้านทั้ง 2 ข้างจะลามเข้าหากันจนกลายเป็น ศีรษะล้านบริเวณกว้าง ซึ่งจะเป็นมากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับกรรมพันธุ์ของคนๆ นั้น
ปลูกผมผู้ชาย Male hair transplant สำหรับผู้ชายที่มีภาวะเว้า M ผมร่น-ผมบาง ด้านหน้าและกลางศีรษะ แก้ปัญหาผมร่วง ผมบางถาวร โดยการย้ายรากผมจากด้านหลังมาปลูกด้านหน้า โดยแพทย์ชำนาญการจะออกแบบทรงผม และกรอบหน้าเฉพาะบุคคล สามารถแจ้งความประสงค์ของคนไข้ได้ตามต้องการ เพื่อให้ได้แนวไรผมที่คนไข้ต้องการมากที่สุด
สำหรับอาการผมร่วงในผู้หญิงนั้นจะมีรูปแบบแตกต่างจากผู้ชาย คือจะมี ผมบาง เฉพาะตรงบริเวณกลางศีรษะเท่านั้น ส่วนแนวผมด้านหน้ายังคงดีอยู่ไม่ถอยร่นเข้าไปเหมือนในผู้ชาย แต่บางคนอาจมี ศีรษะเถิกแบบผู้ชายก็ได้
ปลูกผมผู้หญิง Female Hair Transplant จะเน้นไปที่การปลูกผมปรับกรอบหน้า ให้ออกมาเป็นทรงธรรมชาติเข้ากับใบหน้ามากที่สุด แพทย์จะมีการออกแบบกรอบใบหน้าและวาดให้คนไข้ได้เห็นภาพเบื้องต้น และประเมินกราฟผมที่จะนำมาปลูก
การปลูกผมที่โรงพยาบาลอินทรารัตน์มี 2 เทคนิคดังนี้
1. เทคนิค FUE (Follicular Unit Extraction)
1.1 ผู้ที่มีผมบางหรือหัวล้าน: ที่ต้องการเพิ่มความหนาแน่นของผม
1.2 ผู้ที่มีหนังศีรษะยืดหยุ่นดี: ซึ่งจะทำให้การเก็บรากผมเป็นไปได้ง่ายขึ้น
1.3 ผู้ที่ต้องการการฟื้นตัวเร็ว: เนื่องจากเทคนิค FUE ไม่มีแผลเย็บใหญ่ การฟื้นตัวจะเร็วกว่า
1.4 ผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยงรอยแผลเป็นขนาดใหญ่: แผลจากการเก็บรากผมจะมีขนาดเล็กมาก และมักจะหายได้โดยไม่มีรอยแผลเป็นที่เห็นได้ชัด
2. เทคนิค DHI (Direct Hair Implantation)
2.1 ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติมาก: เนื่องจากการปลูกผมแบบ DHI จะทำให้สามารถควบคุมทิศทางและมุมของการปลูกผมได้ดี
2.2 ผู้ที่มีหนังศีรษะบาง: ซึ่งอาจจะมีข้อจำกัดในการใช้เทคนิคอื่นๆ
2.3 ผู้ที่ต้องการการพักฟื้นที่รวดเร็ว: เช่นเดียวกับ FUE, DHI ก็ไม่มีแผลเย็บใหญ่ ทำให้การฟื้นตัวเร็ว
2.4 ผู้ที่ต้องการเพิ่มความหนาแน่นของผมในบริเวณที่มีผมอยู่แล้ว: เทคนิค DHI สามารถทำได้อย่างละเอียดและแม่นยำ
ข้อควรทราบในการปลูกผม
การเตรียมตัวก่อนการทำศัลยกรรมปลูกผม
ขั้นตอนการปลูกผม
การปลูกผมช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้กับผู้ทำ โดยที่ผมที่งอกขึ้นมาใหม่อยู่ถาวร และยังช่วยให้ผู้ที่มีปัญหาผมบางหรือศีรษะล้านสามารถกลับมามีความมั่นใจและมีภาพลักษณ์ที่ดีขึ้นได้กระบวนการนี้มักใช้ในการรักษาปัญหาผมร่วงหรือศีรษะล้านทั้งในผู้ชายและผู้หญิง โดยวิธีการปลูกผมมีหลากหลายวิธี แต่สองวิธีหลักที่ใช้กันมากที่สุดคือ FUE (Follicular Unit Extraction) และ DHI (Direct Hair Implantation)
ข้อปฏิบัติหลังการทำศัลยกรรมปลูกผม
คำถามที่พบบ่อย
Q : หลังทำศัลยกรรมปลูกผมจะมีผมร่วงก่อนจริงหรือไม่
ผมที่ทำการย้ายมาปลูกในตำแหน่งใหม่ จะทยอยหลุดร่วงออกไปก่อน ประมาณ 1- 3 เดือนแรกหลังผ่าตัด แต่ไม่ต้องตกใจ หลุดออกมาเฉพาะเส้นผม ส่วนรากผมในตำแหน่งที่ปลูกใหม่ยังคงอยู่ และเส้นผมยังคงค่อยๆ งอกออกมา และจะงอกออกมามากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วง 4 - 6 เดือน หลังผ่าตัด และจะงอกยาว ออกมาเรื่อยๆ โดยเฉลี่ยการประเมินว่ารากผมในตำแหน่งที่ปลูกใหม่จะงอก ออกมาหรือไม่จะต้องรอดูประมาณ 8 - 12 เดือน (จะขึ้นเต็มที่) จึงจะบอกได้อย่าง มั่นใจว่าการท าศัลยกรรมปลูกผมประสบความสำเร็จดีหรือไม่ และการจะปลูกผม ซ้ำหรือแซมเสริมครั้งที่ 2 จะต้องรออย่างน้อย 12 เดือน หลังปลูกผมครั้งแรก แต่จะมีคนไข้อีกกลุ่มหนึ่งที่ผมร่วงหลังผ่าตัดปลูกผม ไม่ได้เกิดเฉพาะตำแหน่งที่ปลูกผมใหม่เท่านั้น ตำแหน่งแผลผ่าตัดที่ท้ายทอยก็ร่วงบางจนน่ากลัว บางคนเรียกว่า “Normal Post-operative Shock Loss” หรือการร่วงแบบรุนแรง จนน่ากลัวหลังผ่าตัดปลูกผมแต่เป็นภาวะปกติและเป็นชั่วคราว ผมใหม่จะค่อยๆ กลับมาประมาณ 4 เดือนหลังผ่าตัด สาเหตุเชื่อว่ามีหลายปัจจัยส่งเสริมให้เส้นผม ปกติที่อยู่ในระยะเติบโต (Growing phase or anagen stage) เข้าสู่ระยะพักตัว (Resting phase or Telogen stage) มากขึ้น เช่น ความเครียดกังวลว่าการปลูก ผมจะออกมาไม่ดี, กินยาบางชนิดอยู่, ขาดวิตามิน และพร่องโภชนาการ โดยเฉพาะในผู้หญิง, การมีไข้สูงหลังผ่าตัด ฯลฯ อาการผมร่วงทั้งศีรษะ Shock Loss พบไม่บ่อยหลังทำศัลยกรรมปลูกผม และส่วนใหญ่กลับมาเป็นปกติได้เอง
Q : ปลูกผมแล้วจะมีอาการแทรกซ้อนบ้างไหม
การปลูกผม จัดเป็นการผ่าตัดเล็กชนิดหนึ่ง และใช้เพียงยาชาเฉพาะที่ เท่านั้น จึงถือว่าเป็นการผ่าตัดที่ค่อนข้างปลอดภัยเช่นเดียวกับศัลยกรรมเสริมความงามชนิดอื่นๆ เช่น การทำตาสองชั้น การเสริมจมูก ฯลฯ นอกจากนี้บริเวณ หนังศีรษะ จัดเป็นเนื้อเยื่อของร่างกายที่เลือดมาเลี้ยงดีมาก การติดเชื้อจึงไม่ค่อย เกิดขึ้น การหายของแผลก็ดีกว่าส่วนอื่นๆ ของร่างกาย ภาวะแทรกซ้อนที่พบได้ เช่น อาจเกิดการบวมบริเวณหน้าผากหลังการ ปลูกผม หรืออาจเกิดตุ่มหนองเล็กๆ คล้ายหัวสิวได้บ้างบริเวณรูขุมขนที่ปลูก ซึ่งอาจให้ยาปฎิชีวนะเพื่อการรักษา หรืออาจมีอาการชาบริเวณหนังศีรษะหลังการปลูก ซึ่งอาการดังกล่าวก็มักจะหายไปได้ เองเช่นเดียวกัน
Q: หลังปลูกผมถาวรเสร็จสิ้นจะหลงเหลือรอยแผลเป็นไหม?
การเกิดรอยแผลเป็นหลังการปลูกผมถาวรเป็นเรื่องหลีกเลี่ยงไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ถ้าปลูกผมด้วยวิธี FUE รอยแผลเป็นจะเล็กมากราว 0.6-1.0 มิลลิเมตร หรือแทบมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ส่วนการปลูกผมด้วยวิธีอื่น ๆ อาจมีรอยแผลเป็นที่ขนาดใหญ่กว่า แต่ด้วยเทคโนโลยีในยุคนี้ การอำพรางรอยแผลเป็นทำได้ดีขึ้นมาก ดังนั้น ภายหลังการปลูกผมย้ายเซลล์รากผมจะสามารถกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างมั่นใจแน่นอน
Q: การปลูกผมเจ็บไหม?
ไม่ว่าจะปลูกผมเทคนิค FUE หรือ FUT ก็มีความเจ็บปวดเพียงเล็กน้อยในตอนฉีดยาชาก่อนเริ่มกระบวนการเท่านั้น และหลังจากนั้นคนไข้ก็แทบจะไม่รู้สึกเจ็บอีกเลย
Copyright @ 2021. All Rights Reserved By Intrarat Hospital