• หน้าแรก
  • บริการของเรา
  • การตรวจหาหินปูนในเส้นเลือดหัวใจ Calcium Score

การตรวจหาหินปูนในเส้นเลือดหัวใจ Calcium Score

การตรวจหาหินปูนในเส้นเลือดหัวใจ Calcium Score

Calcium Score หรือในชื่อเต็ม CT Coronary Calcium Score คือการตรวจหา ‘หินปูนในเส้นเลือดหัวใจ’ ด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT Scan) เพื่อสำรวจ ‘ความเสื่อม’ ของเส้นเลือดหัวใจ และประเมิน ‘ความเสี่ยง’ ของการเกิด โรคหลอดเลือดหัวใจ ในอนาคต แม้จะยังไม่มีอาการแสดง

ข้อดีของการตรวจหาหินปูนในหลอดเลือดหัวใจ (Calcium Score)
- มีความแม่นยำสูงในการประเมินความเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ จึงช่วยให้เกิดการวางแผนป้องกันหรือรีบรักษาอย่างทันท่วงที
-  ตรวจง่าย ไม่เจ็บ ใช้เวลาน้อย
- ไม่ต้องฉีดสี ได้รับรังสีน้อย ปลอดภัย
-  ราคาไม่สูง

การตรวจ Calcium Score ต่างจากการตรวจสมรรถภาพหัวใจขณะออกกำลังกาย (EST) อย่างไร ?
เนื่องจากภาวะเส้นเลือดหัวใจตีบ จากตีบน้อยไปตีบมาก เป็นกระบวนการเสื่อมของเส้นเลือดทีละน้อยอย่างช้าๆ จนเกิดมีภาวะหลอดเลือดแดงแข็ง (Atherosclerosis) ในระยะท้ายๆ และเกิดหลอดเลือดหัวใจตีบ อุดตัน หรือแตก ในที่สุด ซึ่ง… การตรวจ Calcium Score จะทำให้เห็นความเปลี่ยนแปลงหรือความเสื่อมของหลอดเลือดได้ตั้งแต่ระยะแรก

      โดยจากภาพจะเห็นว่า เส้นเลือดหัวใจเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงของ ‘เส้นเลือดจากภาวะปกติ’ (ซ้ายมือสุดของภาพ) โดยมีการสะสมของไขมันและหินปูนบนผนังของเส้นเลือด ซึ่งก็จะทำให้ ‘เส้นเลือดตีบลงอย่างช้าๆ’ (ในส่วนที่ 2 ของภาพ) กระบวนการเสื่อมนี้จะใช้เวลาหลายปี โดยอาจยาวนาน 5-30 ปีก็เป็นได้ ขึ้นกับว่ามีปัจจัยเสี่ยงที่เร่งให้เส้นเลือดเสื่อมมากน้อยแค่ไหน

       เมื่อพบว่า ผู้ป่วยที่มีเส้นเลือดตีบมาก หรือเกิด ลิ่มเลือดที่ทำให้อุดตันแล้ว (2 ส่วนด้านขวามือในภาพ) จะถือว่าเป็นช่วงที่ผู้ป่วยมีอาการและต้องมาพบแพทย์แล้ว และเป็นการเสื่อมระยะท้ายๆ ของเส้นเลือดบริเวณนั้น ทำให้การรักษายากขึ้น

การตรวจสมรรถภาพหัวใจโดยการเดินสายพานหรือที่เรียกว่า Exercise Stress Test (EST) เป็นการตรวจหาภาวะขาดเลือดในขณะที่ผู้ป่วยออกกำลังกายหรือหัวใจทำงานหนัก โดยเส้นเลือดที่ตีบมากจะทำให้เลือดไหลผ่านได้น้อยกว่าปกติ จนทำให้ผู้ป่วยมีอาการเจ็บแน่นหน้าอก และคลื่นไฟฟ้าหัวใจเปลี่ยนแปลงในขณะที่ออกกำลังกายหรือหัวใจทำงานหนัก โดยผลที่ประเมินได้จะเป็นไปในลักษณะที่ว่า
- การตรวจ EST จะพบความผิดปกติก็ต่อเมื่อเส้นเลือดหัวใจได้ตีบมากแล้ว
- แต่การตรวจ Calcium Score (CAC) สามารถตรวจพบความผิดปกติของเส้นเลือดที่มีหินปูนไปเกาะบนผนังของเส้นเลือดตั้งแต่ระยะที่มีการตีบไม่มากไปจนถึงตีบมากได้

ดังนั้นจะเห็นได้ว่า CAC เป็นการตรวจที่สามารถหา “ความเสื่อม” ของเส้นเลือดหัวใจตั้งแต่ระยะแรกๆ ที่ยังไม่มีอาการได้ จึงช่วยประเมิน “ความเสี่ยง” ของการเกิดโรคหัวใจในอนาคตได้ดีและรวดเร็ว นำไปสู่การจัดการหรือการรักษาเพื่อลดความเสี่ยงการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบที่เหมาะสมต่อไป

 ความสัมพันธ์ของ Calcium Score กับความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจในอนาคต
นอกจากหินปูนที่ตรวจพบ การตรวจ Calcium Score จะบ่งบอกถึงความเสื่อมของเส้นเลือด เหมือนการมีผมหงอกหรือผมบางในการแสดงความเสื่อมของหนังศีรษะ ปริมาณหินปูนที่พบยังสัมพันธ์กับปริมาณตะกรันในหลอดเลือด (Plague burden) คือ ค่ายิ่งมากแปลว่าหลอดเลือดยิ่งเสื่อมมาก

ที่สำคัญที่สุด“ปริมาณหินปูนที่ตรวจพบจะบอกถึงความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจใน
5 -10 ปีข้างหน้า” ได้อย่างชัดเจน
โดยวงการแพทย์ทั่วโลกทราบความจริงข้อนี้มากว่า 20 ปี มีการศึกษาทั้งในอเมริกาและยุโรป ทั้งในประเทศไทยเองก็มีอาจารย์แพทย์จำนวนมากที่ให้ความสนใจและให้ความสำคัญ โดยจากข้อมูลตัวอย่างในงานวิจัยในฝั่งอเมริกา MESA study ที่ทำมานานกว่า 20 ปี มีผลงานตีพิมพ์มากกว่า 2,000 ฉบับ ก็มีแง่มุมที่สำคัญ เช่น

คนที่มีค่าหินปูน (CAC) เท่ากับ 0 มีโอกาสเกิดโรคหัวใจใน 5 ปี น้อยกว่า 1%ในขณะที่ถ้า CAC มากกว่า 300 โอกาสเกิดโรคสูงกว่า 10%
การเกิดความเสื่อมของเส้นเลือดหัวใจหรือโรคหลอดเลือดหัวใจ ไม่ใช่กระบวนการเพียงข้ามคืน แต่ต้องใช้เวลาหลายปีก่อนมีอาการแสดง การที่ตรวจพบช้าเมื่อคนไข้มีอาการแล้ว อาจถือว่า “เราเจอกันช้าไป” ความพยายามตรวจหาเส้นเลือดที่เสื่อมก่อนมีอาการ เพื่อการดูแล ชะลอ และป้องกันการเกิดโรค จึงเป็นแนวคิดหลักของการตรวจ Calcium Score นี้ ซึ่งมีความสำคัญและมีประโยชน์อย่างมาก

โดยจากภาพจะเห็นว่า เส้นเลือดหัวใจเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงของ ‘เส้นเลือดจากภาวะปกติ’ (ซ้ายมือสุดของภาพ) โดยมีการสะสมของไขมันและหินปูนบนผนังของเส้นเลือด ซึ่งก็จะทำให้ ‘เส้นเลือดตีบลงอย่างช้าๆ’ (ในส่วนที่ 2 ของภาพ) กระบวนการเสื่อมนี้จะใช้เวลาหลายปี โดยอาจยาวนาน 5-30 ปีก็เป็นได้ ขึ้นกับว่ามีปัจจัยเสี่ยงที่เร่งให้เส้นเลือดเสื่อมมากน้อยแค่ไหน

 เมื่อพบว่า ผู้ป่วยที่มีเส้นเลือดตีบมาก หรือเกิด ลิ่มเลือดที่ทำให้อุดตันแล้ว (2 ส่วนด้านขวามือในภาพ) จะถือว่าเป็นช่วงที่ผู้ป่วยมีอาการและต้องมาพบแพทย์แล้ว และเป็นการเสื่อมระยะท้ายๆ ของเส้นเลือดบริเวณนั้น ทำให้การรักษายากขึ้น

การตรวจสมรรถภาพหัวใจโดยการเดินสายพาน หรือที่เรียกว่า Exercise Stress Test (EST) เป็นการตรวจหาภาวะขาดเลือดในขณะที่ผู้ป่วยออกกำลังกายหรือหัวใจทำงานหนัก โดยเส้นเลือดที่ตีบมากจะทำให้เลือดไหลผ่านได้น้อยกว่าปกติ จนทำให้ผู้ป่วยมีอาการเจ็บแน่นหน้าอก และคลื่นไฟฟ้าหัวใจเปลี่ยนแปลงในขณะที่ออกกำลังกายหรือหัวใจทำงานหนัก โดยผลที่ประเมินได้จะเป็นไปในลักษณะที่ว่า
-  การตรวจ EST จะพบความผิดปกติก็ต่อเมื่อเส้นเลือดหัวใจได้ตีบมากแล้ว
-  แต่การตรวจ Calcium Score (CAC) สามารถตรวจพบความผิดปกติของเส้นเลือดที่มีหินปูนไปเกาะบนผนังของเส้นเลือดตั้งแต่ระยะที่มีการตีบไม่มากไปจนถึงตีบมากได้

ดังนั้นจะเห็นได้ว่า CAC เป็นการตรวจที่สามารถหา “ความเสื่อม” ของเส้นเลือดหัวใจตั้งแต่ระยะแรกๆ ที่ยังไม่มีอาการได้ จึงช่วยประเมิน “ความเสี่ยง” ของการเกิดโรคหัวใจในอนาคตได้ดีและรวดเร็ว นำไปสู่การจัดการหรือการรักษาเพื่อลดความเสี่ยงการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบที่เหมาะสมต่อไป

ความสัมพันธ์ของ Calcium Score กับความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจในอนาคต
นอกจากหินปูนที่ตรวจพบ การตรวจ Calcium Score จะบ่งบอกถึงความเสื่อมของเส้นเลือด เหมือนการมีผมหงอกหรือผมบางในการแสดงความเสื่อมของหนังศีรษะ ปริมาณหินปูนที่พบยังสัมพันธ์กับปริมาณตะกรันในหลอดเลือด (Plague burden) คือ ค่ายิ่งมากแปลว่าหลอดเลือดยิ่งเสื่อมมาก

ที่สำคัญที่สุด “ปริมาณหินปูนที่ตรวจพบจะบอกถึงความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจใน 5-10 ปีข้างหน้า” ได้อย่างชัดเจน

โดยวงการแพทย์ทั่วโลกทราบความจริงข้อนี้มากว่า 20 ปี มีการศึกษาทั้งในอเมริกาและยุโรป ทั้งในประเทศไทยเองก็มีอาจารย์แพทย์จำนวนมากที่ให้ความสนใจและให้ความสำคัญ โดยจากข้อมูลตัวอย่างในงานวิจัยในฝั่งอเมริกา MESA study ที่ทำมานานกว่า 20 ปี มีผลงานตีพิมพ์มากกว่า 2,000 ฉบับ ก็มีแง่มุมที่สำคัญ เช่น

คนที่มีค่าหินปูน (CAC) เท่ากับ 0 มีโอกาสเกิดโรคหัวใจใน 5 ปี น้อยกว่า 1%ในขณะที่ถ้า CAC มากกว่า 300 โอกาสเกิดโรคสูงกว่า 10%

การเกิดความเสื่อมของเส้นเลือดหัวใจหรือโรคหลอดเลือดหัวใจ ไม่ใช่กระบวนการเพียงข้ามคืน แต่ต้องใช้เวลาหลายปีก่อนมีอาการแสดง การที่ตรวจพบช้าเมื่อคนไข้มีอาการแล้ว อาจถือว่า “เราเจอกันช้าไป” ความพยายามตรวจหาเส้นเลือดที่เสื่อมก่อนมีอาการ เพื่อการดูแล ชะลอ และป้องกันการเกิดโรค จึงเป็นแนวคิดหลักของการตรวจ Calcium Score นี้ ซึ่งมีความสำคัญและมีประโยชน์อย่างมาก