Morpheus8
Morpheus8 คืออะไร
Morpheus8 เป็นเทคโนโลยีการยกกระชับผิว ช่วยดูแลผิวที่หย่อนคล้อยและเสื่อมตามกาลเวลา จัดเป็นเครื่องมือในกลุ่ม Fractional radiofrequency ที่สามารถควบคุมการตั้งค่าพลังงานคลื่นวิทยุและปรับระดับความลึกของเข็ม (Coated pin) ลงสู่ชั้นใต้ผิวหนังได้หลายระดับตามต้องการ (Multi Layer Technology) ทั้งในระดับความลึกได้ที่ 2, 3 และ 4 มิลลิเมตร (ชั้นหนังแท้และชั้นไขมันใต้ผิว) โดยปล่อยพลังงานเฉพาะส่วนปลายเข็ม จึงไม่ก่อให้เกิดความร้อนทำลายผิวด้านบนชั้นหนังกำพร้า แต่จะกระตุ้นให้เกิดการซ่อมแซมและเสริมสร้างผิวใหม่ ทั้งคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวหดตึงกระชับ รวมทั้งยังช่วยหดชั้นไขมันใต้ผิวอีกด้วย Morpheus8 จึงเป็นเทคโนโลยีการยกกระชับโดยไม่ต้องผ่าตัด (Non - Surgical Lifting ) ไม่ต้องพักฟื้น ไม่ทิ้งรอยแผล ปลอดภัยต่อคนผิวคล้ำต่อการเกิดรอยดำ และยังได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาของประเทศสหรัฐอเมริกา ปลอดภัย ไม่เป็นอันตรายต่อผิว สามารถเข้าสู่ผิวได้ลึกสุด (Deepest FDA Approved Fractional Technology)
Morpheus8 เหมาะกับผิวหน้าแบบไหน
- มีริ้วรอยแห่งวัย (Fine wrinkles)
- สีผิวไม่สม่ำเสมอ (Uneven skin tone)
- แผลเป็นและผิวที่ไม่เรียบเนียน (Skin irregularities and scars)
- ใบหน้าที่หย่อนคล้อย กรอบหน้าไม่ชัด (Sagging)
นอกจากการดูแลรักษาบริเวณผิวหน้าแล้ว Morpheus8 ยังสามารถทำการรักษาที่ชั้นไขมันใต้คาง ลำคอ รวมถึงบริเวณอื่นที่หย่อนคล้อยหรือรอยแตกลายบนร่างกาย เช่น ท้องแขน หน้าท้อง หัวเข่า
- Morpheus8 เจ็บไหม
ในระหว่างกระบวนการรักษาด้วย Morpheus8 จะมีความรู้สึกเจ็บปวดได้ โดยระดับความเจ็บนี้จะแตกต่างกันไปตามการรับรู้ความรู้สึกของผู้เข้ารับการรักษาแต่ละคน ดังนั้นก่อนทำการรักษาจึงมีความจำเป็นต้องมีขั้นตอนการระงับความเจ็บปวดด้วยการทายาชาประมาณ 45-60 นาที และสามารถใช้เครื่องเป่าลมเย็นเพื่อบรรเทาอาการเจ็บในระหว่างทำการรักษาร่วมด้วยได้
- Morpheus8 แตกต่างจากเครื่องมือยกกระชับอื่นอย่างไร
Morpheus8 เป็นเทคโนโลยีหนึ่งเดียวที่สามารถหดชั้นไขมันใต้ผิว ช่วยให้ผิวที่เสื่อมตามกาลเวลาแลดูอ่อนเยาว์ เป็นการรักษาที่ปลอดภัยต่อคนผิวคล้ำ โอกาสเกิดรอยดำน้อย หัวเข็มหรือ Morpheus8 tip ใช้เพียงครั้งเดียวทิ้ง บรรจุในซองที่ผ่านกระบวมการฆ่าเชื้อ GAMMA sterilzed จึงมั่นใจได้ถึงความสะอาดและปลอดภัย
- การดูแลรักษาภายหลังการทำ Morpheus8
- ประคบเย็นบริเวณผิวที่ทำการรักษาอย่างน้อย 20 นาที เพื่อให้รู้สึกสบายผิว
- ทาครีมหรือขี้ผึ้งฆ่าเชื้อ เคลือบบริเวณผิวที่ทำการรักษาอย่างน้อย 1-3 วัน โดยเว้นการล้างหน้าหรือหลีกเลี่ยงการสัมผัสน้ำอย่างน้อย 24 ชั่วโมง
- หลังทำการรักษาสามารถพบสะเก็ดบางๆ บนผิวได้ แนะนำให้ทาครีมบำรุงผิวชุ่มชื้นหรือมอยเจอร์ไรเซอร์ และครีมกันแดด SPF มากกว่า 30 ติดต่อกันประมาณ 4 สัปดาห์ ซึ่งในระหว่างที่ผิวมีสะเก็ดนี้ สามารถแต่งหน้าได้ ระยะเวลาของการมีสะเก็ดอาจแตกต่างไปตามสภาพผิวของแต่ละคน คนผิวมันอาจพบสะเก็ดได้นานประมาณ 3-5 วัน คนผิวแห้งอาจพบสะเก็ดได้นานประมาณ 7-10 วัน และหากทำการรักษาบนผิวกายอาจพบสะเก็ดได้นานประมาณ 2-3 สัปดาห์
บทความโดย
นพ.อภิรัฐ โรจน์อนนท์
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและเลเซอร์