โรค “ข้อเข่าเสื่อม”

โรค “ข้อเข่าเสื่อม”

17/09/2567 16:03:15 | Views: 2,125

สัญญาณเตือน ‘ข้อเข่าเสื่อม’ ที่ต้องสังเกต

  • เจ็บตึงหัวเข่าเวลาที่นั่งพับเพียบ นั่งขัดสมาธิ นั่งยองๆ หรือคุกเข่า
  • หลังจากนั่งนานๆ พอจะลุกขึ้น กลับรู้สึกข้อเข่าฝืดขัดอยู่บ่อยๆ
  • มีเสียงลั่น หรือดังกรอบแกรบในหัวเข่า
  • รู้สึกปวดเข่าเวลาเดินหรือขึ้นลงบันได

ความรุนแรงและอาการของโรคข้อเข่าเสื่อม โดยทั่วไปจะแบ่งออกเป็น 3 ระยะ คือ

  1. ระยะเริ่มแรก จะมีอาการเจ็บตึงข้อเข่าแบบเป็นๆ หายๆ หรือเจ็บตึงเมื่อมีการกดทับที่ข้อเข่า ปวดเข่าเวลาเคลื่อนไหว เช่น เดินขึ้นลงบันได แต่อาการจะดีขึ้นเมื่อได้พัก กรณีเมื่อต้องอยู่ในท่าเดิมนานๆ พอเริ่มขยับก็จะรู้สึกถึงการฝืดหรือการเสียดสีของกระดูกข้อเข่า และมีเสียงดังในข้อ
  2. ระยะแสดงอาการที่ชัดเจน จะปวดข้อเข่าแม้ขณะอยู่เฉยๆ และอาจมีอาการข้อเข่าอ่อนแรงร่วมด้วย ซึ่งจะเกิดขึ้นต่อเมื่อกระดูกอ่อนผิวข้อเข่าเริ่มสึกกร่อน ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณข้อเข่าเกิดการอักเสบ อาการปวดจะรุนแรงขึ้น เหยียดหรืองอข้อเข่าได้ไม่ค่อยสุด
  3. ระยะรุนแรง สังเกตได้จากการที่ข้อเข่าเริ่มมีการผิดรูป โก่งงออย่างชัดเจน ข้อเข่าหลวมหรือเบี้ยวผิดรูป กล้ามเนื้อต้นขาลีบ ทำให้เดินและใช้ชีวิตประจำวันลำบาก มีอาการปวดเวลาเดินหรือขยับจนไม่สามารถลงน้ำหนักที่หัวเข่าได้ กรณีนี้อาจต้องทำการรักษาด้วยการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่า จึงจะสามารถกลับมาเคลื่อนไหวได้เป็นปกติ

รู้ทันข้อเข่าเสื่อมด้วยการเอกซเรย์ข้อเข่า

การเอกซเรย์ข้อเข่าจะทำให้พบการสึกกร่อนของกระดูกอ่อนข้อเข่าได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ซึ่งการพบเร็วในระยะที่ยังไม่รุนแรงนี้ทำให้มีทางเลือกในการรักษามากขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมเสมอไป ในรายที่ยังไม่มีการสึกกร่อนของข้อเข่านั้นสามารถรักษาด้วยการปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตให้เหมาะสม แต่หากข้อเข่าเริ่มมีการสึกกร่อนไปแล้วก็ต้องทำการรักษาโดยการใช้ยาควบคู่กับการบริหารกล้ามเนื้อข้อเข่า ซึ่งแพทย์ก็จะติดตามอาการและการดำเนินโรคอย่างต่อเนื่อง หากอาการยังไม่ดีขึ้นแพทย์อาจแนะนำให้ฉีดน้ำเลี้ยงข้อเข่าสังเคราะห์ หรือ Hyaluronic Acid ที่ช่วยเสริมการหล่อลื่น ลดแรงเสียดทาน และกระตุ้นการสร้างน้ำเลี้ยงข้อเข่าใหม่ ซึ่งจะช่วยลดอาการปวดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อันตรายแค่ไหน หากไม่รักษาข้อเข่าเสื่อม?

หากพบว่ากระดูกอ่อนข้อเข่าเริ่มมีการสึกกร่อนแล้วไม่รีบทำการรักษา ร่างกายของเราจะรับรู้ได้โดยอัตโนมัติ และจะหลีกเลี่ยงการใช้งานข้อเข่าข้างที่บาดเจ็บ ทำให้ข้อเข่าอีกข้างต้องรับภาระมากเกินความจำเป็น ซึ่งก็จะส่งผลให้ข้อเข่าที่ปกติอยู่เสื่อมตามไปด้วยเร็วกว่าที่ควร ท้ายที่สุดข้อเข่าก็จะเสียหายจนไม่สามารถฟื้นฟูได้ทั้ง 2 ข้าง จนต้องรับการรักษาด้วยการผ่าตัดเท่านั้น

วิธีดูแลข้อเข่าให้แข็งแรง

  • ควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
  • บริหารกล้ามเนื้อรอบๆ หัวเข่าให้แข็งแรงอยู่เสมอ
  • หลีกเลี่ยงกิจกรรมหรือท่านั่งที่ต้องงอเข่ามากกว่า 90 องศา เช่น การนั่งยองๆ การนั่งขัดสมาธิ การนั่งพับเพียบ หรือคุกเข่า
  • หลีกเลี่ยงการเล่นกีฬาที่ต้องมีการปะทะ เช่น ฟุตบอล บาสเกตบอล เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดการบาดเจ็บของข้อเข่า
  • หากมีโรคประจำตัวที่ส่งผลให้เยื่อบุข้ออักเสบ เช่น โรครูมาตอยด์ ควรดูแลตัวเองอย่างเคร่งครัด ทานยาให้ครบตามที่แพทย์สั่ง
  • เมื่อมีการบาดเจ็บบริเวณข้อเข่า ควรพบแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัย และรับการรักษาอย่างถูกวิธี

 


บทความโดย

พญ.ณิชากร  สี่หิรัญวงศ์
พญ.ณิชากร สี่หิรัญวงศ์

รังสีแพทย์


บทความน่ารู้

วัคซีนเสริมของเด็ก มีอะไรบ้างและจำเป็นหรือไม่

วัคซีนเสริมของเด็ก มีอะไรบ้างและจำเป็นหรือไม่

เป็นวัคซีนที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรค แต่เป็นวัคซีนที่ไม่ได้อยู่ในแผนงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคของกระทรวงสาธารณสุข

Filler

Filler

ฟิลเลอร์ (Filler) หรือสารเติมเต็ม เป็นสารที่ใช้ในการเติมชั้นใต้ผิวเพื่อให้ร่องหรือริ้วรอยลึกดูตื้นขึ้น ทำให้แลดูอ่อนเยาว์ รวมทั้งนำมาใช้ในการปรับรูปหน้าให้สมส่วนมากยิ่งขึ้น