วัคซีน RSV สำหรับหญิงตั้งครรภ์

วัคซีน RSV สำหรับหญิงตั้งครรภ์

07/10/2568 14:24:57 | Views: 271

เกราะป้องกันลูกน้อยตั้งแต่ในครรภ์

การตั้งครรภ์คือช่วงเวลาสำคัญที่คุณแม่ทุกคนต้องการมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกน้อย หนึ่งในโรคที่พ่อแม่หลายคนกังวลคือ การติดเชื้อ RSV (Respiratory Syncytial Virus) ซึ่งเป็นไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคทางเดินหายใจ พบได้บ่อยในเด็กเล็ก โดยเฉพาะทารกอายุต่ำกว่า 6 เดือน การติดเชื้อ RSV อาจทำให้เกิดอาการรุนแรง เช่น หลอดลมฝอยอักเสบและปอดอักเสบ ซึ่งบางครั้งจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล

เพื่อป้องกันความเสี่ยงนี้ วงการแพทย์จึงได้พัฒนาวัคซีน RSV สำหรับหญิงตั้งครรภ์ขึ้นมา เพื่อส่งผ่านเกราะภูมิคุ้มกันให้ทารกตั้งแต่ยังอยู่ในครรภ์

 

วัคซีน RSV คืออะไร?

วัคซีน RSV เป็นวัคซีนชนิดโปรตีนสังเคราะห์ที่ออกแบบมาเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันต่อเชื้อ RSV เมื่อหญิงตั้งครรภ์ได้รับวัคซีน ร่างกายจะสร้างแอนติบอดี และส่งผ่านภูมิคุ้มกันนี้ไปยังทารกผ่านทางรก ทำให้ลูกน้อยมีภูมิต้านทานปกป้องในช่วง 6 เดือนแรกหลังคลอด ซึ่งเป็นช่วงที่ร่างกายของทารกยังบอบบางและเสี่ยงต่อการติดเชื้อมากที่สุด

ประโยชน์ของวัคซีน RSV ในหญิงตั้งครรภ์

- ลดโอกาสที่ทารกจะติดเชื้อ RSV รุนแรงตั้งแต่แรกเกิด

- ลดความเสี่ยงการนอนโรงพยาบาลเนื่องจากหลอดลมฝอยอักเสบหรือปอดอักเสบ

- มอบภูมิคุ้มกันตั้งแต่วันแรกที่ลูกลืมตาดูโลก โดยไม่ต้องรอจนถึงวัยที่ฉีดวัคซีนเองได้

- ลดภาระค่าใช้จ่ายและความกังวลของครอบครัวในการดูแลสุขภาพลูก

 

ความปลอดภัยและการศึกษา

งานวิจัยขนาดใหญ่ในสหรัฐอเมริกาและยุโรปพบว่า วัคซีน RSV มีความปลอดภัยสูงต่อทั้งแม่และลูกในครรภ์ ไม่เพิ่มความเสี่ยงของการคลอดก่อนกำหนด หรือภาวะแทรกซ้อนสำคัญ อีกทั้งยังเป็นวิธีที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (FDA) ว่าเป็นมาตรการป้องกันโรค RSV ในทารกที่มีประสิทธิภาพ

 

ใครควรพิจารณาฉีดวัคซีน RSV?

หญิงตั้งครรภ์ทุกคน โดยเฉพาะหากมีปัจจัยเสี่ยง เช่น

-ตั้งครรภ์ในช่วงฤดูระบาด RSV (ปลายฤดูฝน–ต้นฤดูหนาว)

-มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง

-เคยมีลูกคนก่อนป่วยรุนแรงจาก RSV

-กังวลเรื่องภูมิคุ้มกันของลูกในช่วงแรกเกิด

-ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการฉีด

-ควรฉีดในช่วงอายุครรภ์ 24-36 สัปดาห์

-สามารถฉีดได้ถึงอายุครรภ์ 36 + 6สัปดาห์ หรือก่อนคลอด 2 สัปดาห์ หากอยู่ในฤดูระบาด RSV

-การฉีดในช่วงเวลาที่เหมาะสมจะช่วยให้ทารกได้รับภูมิคุ้มกันสูงสุดหลังคลอด

 

อาการไม่พึงประสงค์ที่อาจพบ

เหมือนกับวัคซีนทั่วไป อาจมีอาการข้างเคียงเล็กน้อย เช่น

-ปวดหรือบวมบริเวณที่ฉีด

-มีไข้ต่ำ ๆ หรืออ่อนเพลียชั่วคราว

-ซึ่งโดยปกติอาการเหล่านี้จะหายไปเองภายใน 1–2 วัน

 

ข้อควรรู้ก่อนฉีด

-ควรปรึกษาสูติแพทย์ก่อนตัดสินใจฉีดทุกครั้ง

-แจ้งแพทย์หากมีประวัติแพ้วัคซีนหรือยาบางชนิด

-หลังคลอด ทารกยังคงสามารถรับวัคซีนอื่น ๆ ได้ตามปกติ

 

เรียบเรียงโดย นพ.ปราโมทย์ เชิดรัตนรักษ์


บทความน่ารู้

การผ่าตัดเนื้องอกมดลูก (Myomectomy)

การผ่าตัดเนื้องอกมดลูก (Myomectomy)

การผ่าตัดเนื้องอกมดลูก เป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้หญิงที่มีปัญหาจากเนื้องอกมดลูก เช่น มีเลือดออกมากผิดปกติ ปวดท้องมาก

โรคต้อลม (Pinguecula)

โรคต้อลม (Pinguecula)

เป็นโรคที่เกิดจากการเสื่อมของเยื่อบุตาขาว โดยจะมีลักษณะเป็นก้อนเล็ก ๆ สีเหลืองใส นูนอยู่บริเวณเยื่อบุตาขาวทั้งหัวตาหรือหางตา หลายคนมักเข้าใจผิดว่าการเป็นต้อลมคือเนื้องอกในตา หรือเป็นโรคที่สามารถติดต่อกับผู้อื่นได้ ซึ่งในความจริงแล้วตุ่มที่นูนขึ้นมานั้นไม่สามารถกลายเป็นเนื้อร้ายหรือแพร่เชื้อได้