การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม
24/09/2567 12:33:17 | Views: 1,631
การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม
การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม (Total Knee Replacement) เป็นการผ่าตัดทางการแพทย์ที่ใช้เพื่อแก้ไขปัญหาของข้อเข่าที่เสื่อมสภาพหรือเจ็บปวดอย่างรุนแรงโดยการตัดแต่งส่วนของกระดูกและกระดูกอ่อนที่เสื่อมหรือเสียหายอย่างรุนแรง แล้วใช้ผิวข้อเข่าเทียมที่ทำด้วยโลหะมาติดตั้งแทนที่ข้อเข่าที่เสื่อมหรือเสียหาย ซึ่งการผ่าตัดนี้สามารถแก้ไขปัญหาความเจ็บปวดรุนแรงได้ เพิ่มพิสัยการเคลื่อนไหวได้ อีกทั้งสามารถแก้ไขความผิดรูปของเข่าในผู้ป่วยส่วนใหญ่ได้อีกด้วย
ใครบ้างที่ควรผ่าตัดข้อเข่าเทียม
- ผู้ที่มีโรคข้อเข่าเสื่อม คนที่มีโรคข้อเข่าเสื่อม (osteoarthritis) ที่เป็นโรคที่ทำให้เกิดความเสื่อมสภาพของกระดูกของข้อเข่า และทำให้เกิดอาการปวดเข่ารุนแรงที่มีผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต การผ่าตัดข้อเข่าเทียมอาจเป็นทางเลือกที่ดีเพื่อลดความเจ็บปวดและปรับปรุงคุณภาพชีวิตได้
- ผู้ที่มีบาดเจ็บหรืออาการความเจ็บปวดรุนแรง บางคนอาจมีอาการความเจ็บปวดของข้อเข่า กระดูกและกระดูกอ่อนแตกหักหรือที่รุนแรงมากจนทำให้กิจกรรมประจำวันมีข้อจำกัดหรือไม่สามารถทำได้ ในกรณีนี้การผ่าตัดข้อเข่าเทียมอาจช่วยลดความเจ็บปวดและเพิ่มคุณภาพชีวิต
- ผู้ที่ไม่สามารถใช้วิธีการรักษาอื่นๆ บางครั้งผู้ป่วยอาจมีข้อจำกัดในการใช้วิธีการรักษาอื่นๆ เช่น การใช้ยาต้านการอักเสบ ยาแก้ปวด การฝังเข็ม หรือการบำบัดกายภาพอาจไม่สามารถทำได้หรือไม่เพียงพอในการควบคุมอาการของโรค ในกรณีนี้การผ่าตัดข้อเข่าเทียมอาจเป็นทางเลือกสุดท้ายที่เหมาะสม
- ผู้ที่มีคุณภาพชีวิตที่มีผลกระทบจากโรคข้อเข่า บางครั้งโรคข้อเข่าเสื่อมสามารถทำให้คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยมีผลกระทบที่มาก โดยการมีข้อจำกัดในกิจกรรมประจำวัน การผ่าตัดข้อเข่าเทียมอาจช่วยให้พวกเขากลับไปสู่การทำกิจกรรมประจำวันได้อย่างปกติ
สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงหลังผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่า
แม้ข้อเข่าเทียมจะมีข้อดีมาก แต่อย่างไรก็ตาม ข้อเทียมทำจากโลหะและส่วนประกอบที่เป็นโพลีเมอร์ก็ยังคงมีความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อน และมีอายุการใช้งานที่จำกัดอยู่ การหลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านี้จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนหลังจากการผ่าตัดข้อเข่าเทียม ช่วยยืดอายุการใช้งาน และช่วยให้กระบวนการฟื้นฟูมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- การยกของหนัก หลีกเลี่ยงการยกของหนักหรือการทำกิจกรรมที่ต้องใช้พลังงานมาก เช่น ยกของหนัก การเล่นกีฬาที่ต้องกระแทกข้อเข่า เป็นต้น
- การนั่งยอง หลีกเลี่ยงการนั่งยอง นั่งตักบาตรหรือการนั่งในท่าที่งอเข่ามาก
- การหนีบข้อเข่า หลีกเลี่ยงการหนีบข้อเข่าหรือการทำให้ข้อเข่าได้รับแรงกระทำจากทางด้านข้าง เช่นนั่งพับเพียบ คุกเข่า การบิดหมุนเข่า
- การนั่งหรือยืนนานๆ หลีกเลี่ยงการนั่งหรือยืนนานๆ ที่อาจทำให้ข้อเข่าอ่อนแอและเจ็บปวด เช่น การนั่งหรือยืนทำงานที่คอมพิวเตอร์นานเวลา
- การสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์อาจทำให้การฟื้นฟูหลังการผ่าตัดช้าลงและเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อน
- ภาวะน้ำหนักตัวเกิน หากมีน้ำหนักเกินมาก ควรพยายามลดน้ำหนักก่อนการผ่าตัดเพื่อลดภาระที่มีอยู่บนข้อเข่า
- ความเสี่ยงแผลติดเชื้อ ควรรักษาแผลให้สะอาดและแห้ง และหลีกเลี่ยงการนำแผลเข้าสู่สภาพที่ชื้นมากเช่นน้ำหรือความชื้นที่เกิดจากเหงื่อ
การปฏิบัติตัวหลังผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่า
- การดูแลแผล หลังผ่าตัด ควรรักษาแผลให้สะอาดและแห้งอยู่เสมอ ห้ามเปียกน้ำ ควรปิดแผลด้วยผ้าทำแผลหรือพลาสเตอร์ที่สะอาดและเปลี่ยนทุกวัน หากมีความผิดปกติ บวม แดง ร้อน มีไข้ หรือ แผลซึมมาก ควรรีบรีบติดต่อแพทย์ทันที
- การควบคุมอาการปวด การใช้ยาแก้ปวดตามที่แพทย์แนะนำ ไม่ควรปรับการใช้ยาเอง
- การฝึกบริหารกล้ามเนื้อ การฝึกบริหารกล้ามเนื้อเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของข้อเข่า การฝึกซ้ำเบาๆ โดยไม่ทำให้เกิดความรู้สึกตึงหรือปวดมากจนเกินไป
- การเคลื่อนไหว เคลื่อนไหวตามคำแนะนำของแพทย์และนักกายภาพบำบัด เพื่อลดโอกาสเสี่ยงของข้อติดยึด
- การใช้อุปกรณ์ช่วยเดิน หากต้องใช้อุปกรณ์ช่วยเดิน ควรเรียนรู้การใช้งานอย่างถูกต้องจากนักกายภาพบำบัดและใช้ให้เหมาะสมตามคำแนะนำของแพทย์
- การดูแลน้ำหนักตัว น้ำหนักตัวที่เหมาะสมสามารถช่วยลดการสึกหรอของข้อเทียมและลดการเกิดภาวะแทรกซ้อนได้
- การตรวจสุขภาพและติดตามอาการต่อเนื่อง ควรรับการตรวจสุขภาพประจำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อตรวจสอบความก้าวหน้าในการฟื้นตัว และเฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อนระยะยาวหลังการผ่าตัด
การปฏิบัติตัวที่เหมาะสมหลังการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าจะช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นตัวได้ดีขึ้นและกลับสู่การมีคุณภาพชีวิตที่ดีได้โดยเร็ว
บทความโดย
นพ.ปิยะ อัศวบุญญาเดช
ศัลยแพทย์กระดูก-ข้อ /ออร์โธปิดิกส์และผู้เชี่ยวชาญทางเนื้องอกกระดูกและเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน