โปรแกรมวัคซีนป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบบี/เอ

18/08/2568 15:16:19 | Views: 6,224

วัคซีนป้องกัน ไวรัส ตับอักเสบ อันตรายที่ป้องกันได้
เพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี/เอที่รุนแรง

การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีแบบเฉียบพลัน (Acute Hepatitis B Infection) : อาการอาจไม่แสดงออกมา หรืออาจมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ เช่น ไข้สูง, อ่อนเพลีย, เบื่ออาหาร, คลื่นไส้ / อาเจียน, ปวดท้อง, จุกแน่นใต้ชายโครงขวาจากตับโต, ปัสสาวะสีเข้ม, และดีซ่าน (ตัวเหลืองตาเหลือง) 

อาการเหล่านี้จะค่อยๆ ดีขึ้นในเวลา 2 - 3 สัปดาห์  แต่คนที่เป็นโรคตับอักเสบบี จะมี~1-5% ที่ร่างกายจะไม่สามารถกำจัดเชื้อได้ ทำให้เป็น “พาหะตับอักเสบบี” : มีเชื้อตับอักเสบบี HBsAg ในเลือดตลอดเวลา โดยไม่มีอาการภายนอก แต่สามารถแพร่เชื้อทางเลือดและเพศสัมพันธ์ได้ & มีการอักเสบเบาๆของเซลล์ตับอยู่ตลอด ซึ่งจะทำให้เกิดพังผืด & เสี่ยงเป็นมะเร็งตับได้เมื่ออายุมากขึ้น

=> คำแนะนำเพื่อลดความเสี่ยง / ป้องกันการติดเชื้อตับอักเสบ
     1. ควรงดดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เพราะทำให้เกิดการอักเสบของตับ & ทำให้ตับถูกทำลายมากขึ้น 
     2. รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ลดอาหารจำพวกแป้ง น้ำตาล และไขมัน
     3. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ 
     4. ตรวจสุขภาพประจำปี และทำ อัลตราซาวด์ของช่องท้องส่วนบน (ดูตับ)
     5. งดอาหารที่มีสารอัลฟาท็อกซิน เช่น ในถั่วลิสง พริกป่น เป็นต้น
     6. วิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันไวรัสตับอักเสบบี / เอ+บี คือการฉีดวัคซีน

ใครที่ควรฉีดวัคซีนป้องกันตับอักเสบบี ? 
ตอบ:   คนที่ไม่มีภูมิ & ยังไม่ได้เป็นพาหะตับอักเสบบี
=> ถ้าเกิดก่อนปี 2535 ควรตรวจ HBsAg (ตรวจหาเชื้อตับอักเสบบี) & Anti-HBs (ภูมิป้องกันตับอักเสบบี) ก่อนฉีดวัคซีน  
* ถ้ายังไม่มีภูมิ ให้ฉีดวัคซีน 3 ครั้ง (0, 1, 6 เดือน)
* ถ้าเป็น “พาหะตับอักเสบบี” ไปแล้ว ก็ไม่ต้องฉีดวัคซีนแล้ว 

**“พาหะตับอักเสบบี” : คือคนที่มีเชื้อไวรัสตับอักเสบบี HBsAg ในเลือดตลอดเวลา โดยไม่มีอาการภายนอก แต่สามารถแพร่เชื้อทางเลือดและเพศสัมพันธ์ได้ & มีการอักเสบน้อยๆของเซลล์ตับอยู่ตลอด ซึ่งจะทำให้เกิดพังผืด & เสี่ยงเป็นมะเร็งตับได้เมื่ออายุมากขึ้น**

=> กรณีเกิดหลังปี 2535 : ทารกที่คลอดในประเทศไทยจะได้รับวัคซีนตับอักเสบบีตั้งแต่แรกเกิดทุกคนแล้ว ซึ่งถ้าได้รับครบ 3 เข็มแล้ว  ก็จะมีภูมิสูงถึง 97% และอยู่ได้นานตลอดขีวิต (หากไม่ได้เป็นโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง) หากหลายปีผ่านไป อยากตรวจว่ามีภูมิคุ้มกันอยู่รึเปล่า สามารถตรวจภูมิ (Anti-HBs) ดูได้  & หากภูมิในเลือดต่ำหรือหายไป -> สามารถฉีดวัคซีนตับอักเสบบีกระตุ้น 1 เข็มได้
{จริงๆแล้ว พอเวลาผ่านไปนาน ภูมิในเลือดอาจหายไปได้ แต่จะยังมีภูมิอยู่ใน memory cells ที่สามารถสร้างภูมิกลับมาได้หากไปติดเขื้อไวรัสตับอักเสบบีในอนาคต}
(อ่านต่อข้อถัดไป)

หากฉีดวัคซีนตับอักเสบบี ครบ 3 เข็มแล้ว ภูมิจะอยู่นานแค่ไหน?
ตอบ:   หลังฉีดวัคซีนตับอักเสบบีครบ 3 เข็มแล้ว  จะสามารถป้องกันการติดเชื้อได้ตลอดชีวิต (โดยเฉพาะหากได้รับการฉีดตั้งแต่เด็ก) กรณีฉีดในผู้ใหญ่ ภูมิอาจขึ้นไม่ดีเท่าเด็ก ดังนั้น หลังจากได้รับวัคซีนครบ 3 เข็มในผู้ใหญ่ ประมาณ 1-2 เดือน ควรเข้ารับการตรวจเลือดเพื่อยืนยันว่ามีภูมิคุ้มกันไวรัสตับอักเสบบีหรือไม่ในเลือด (ซึ่งถ้าเคยตรวจพบว่ามีภูมิคุ้มกันในเลือดแล้ว 1 ครั้ง ถึงในอนาคตตรวจซ้ำแล้วภูมิหายไป  ก็ไม่ต้องตกใจไปนะคะ เพราะภูมิจะอยู่ในเลือดระยะนึง แล้วจะย้ายไปอยู่ใน memory cells ตลอดไป พร้อมผลิตภูมิต้านทานกลับมาได้ทัน) 

จะมั่นใจได้ยังไงว่ามีภูมิอยู่ใน memory cells แล้ว? 
ตอบ:   หากเคยตรวจว่ามีภูมิคุ้มกันตับอักเสบบี (Anti-HBs) ขึ้นในเลือดอย่างน้อย 1 ครั้งแล้ว  หลังจากนั้นหลายๆปี มาตรวจซ้ำแล้วภูมิหายไป หากกังวลและอยากให้แน่ใจว่ามีภูมิอยู่ใน memory cells แล้ว -> ท่านสามารถฉีดวัคซีนกระตุ้น 1 เข็ม แล้วอีก 1 เดือน ตรวจภูมิตับอักเสบบีซ้ำ ถ้ามีภูมิขึ้นก็แสดงว่าท่านมีภูมิอยู่ใน memory cells ที่จะอยู่ไปตลอดชีวิตแล้วค่ะ ไม่ต้องทำอะไรเพิ่มนะคะ

ก่อนฉีดวัคซีนตับอักเสบเอ ต้องตรวจภูมิก่อนรึเปล่า ?
ตอบ:  ไม่ต้องตรวจค่ะ หากไม่เคยฉีด วัคซีนตับอักเสบเอ & ไม่เคยเป็นโรคตับอักเสบเอมาก่อน สามารถฉีดวัคซีนป้องกันตับอักเสบเอได้เลยนะคะ