หลังคลอด คุณแม่ควรตรวจอะไรบ้าง

หลังคลอด คุณแม่ควรตรวจอะไรบ้าง

23/07/2567 13:51:22 | Views: 1,703

หลังคลอด คุณแม่ควรตรวจอะไรบ้าง

 

ความสำคัญในการตรวจคุณแม่หลังคลอดบุตร

     การตรวจร่างกายหลังคลอดลูกเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะมีผลต่อสุขภาพของคุณแม่และลูกน้อยด้วย การตรวจร่างกายหลังคลอดมีหลายประการ เช่น การตรวจความสมบูรณ์ของมดลูก สอบถามเกี่ยวกับอาการที่คุณแม่เป็น เช่น อาการปวด การตรวจชีพจร และอื่นๆ ที่จำเป็นตามคำแนะนำของแพทย์ที่ดูแลคุณในช่วงหลังคลอด การตรวจร่างกายนี้จะช่วยให้คุณแม่หลังคลอดรู้สึกมั่นใจและมีสุขภาพที่ดี

 

รายการตรวจสุขภาพหลังคลอดลูก มีรายการใดบ้าง

การตรวจสุขภาพหลังคลอดมีรายการตรวจหลายอย่างที่สำคัญ เช่น

  1. การตรวจความสมบูรณ์ของมดลูก : การตรวจดูว่ามดลูกมีความสมบูรณ์และเติบโตอย่างถูกต้องหรือไม่
  2. การตรวจสุขภาพทั่วไปของร่างกาย เช่น การตรวจดูแผลคลอด การตรวจดูการหดตัวของมดลูก และการตรวจหาภาวะที่อาจเกิดขึ้นหลังคลอด เช่นลักษณะของน้ำคาวปลา การตรวจสุขภาพของช่องปากและฟัน เพื่อป้องกันการเกิดภาวะทางชีวภาพที่เกิดขึ้นหลังคลอดเช่น การติดเชื้อของมดลูก ช่องปากและฟัน
  3. การตรวจชีพจร : การตรวจวัดความดันโลหิต ชีพจร และอุณหภูมิร่างกาย เพื่อประเมินสุขภาพทั่วไปของผู้หญิงหลังคลอด
  4. การสนทนาและการให้คำปรึกษา : การสนทนาเกี่ยวกับการดูแลตนเองและลูกน้อย เช่น การให้นมบุตร การดูแลแผลคลอด การดูแลสุขภาพใจ และการคุมกำเนิดอย่างเหมาะสมหลังคลอดบุตร เป็นต้น
  5. การตรวจความสมบูรณ์ของทรวงอกและการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการให้นมบุตร

     รายการตรวจเหล่านี้มีความสำคัญในการดูแลสุขภาพหลังคลอด มีบทบาทสำคัญในการป้องกันและรักษาภาวะที่เกิดขึ้นหลังคลอด แต่คำแนะนำเหล่านี้อาจแตกต่างไปตามแต่ละบุคคลและสถานการณ์ ดังนั้น ควรปรึกษาแพทย์หรือบุคลากรทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องเพื่อรับคำแนะนำและการดูแลสุขภาพที่เหมาะสมในแต่ละกรณี

อาการหลังคลอดแบบไหน ที่ควรรีบพบแพทย์ทันที

   อาการหลังคลอดที่ควรรีบพบแพทย์ทันที ก่อนถึงวันนัดตรวจหลังคลอด คุณแม่ควรหมั่นใส่ใจดูแลร่างกายของตัวเองอยู่เสมอ หากพบว่ามีอาการผิดปกติเหล่านี้เกิดขึ้น คุณแม่ควรรีบไปพบแพทย์ทันที (หรือภายใน 12 ชั่วโมง)

  • มีอาการปวดศีรษะมาก หนาวสั่น หรือมีไข้สูงเกินกว่า 38 องศาเซลเซียส
  • มีก้อนที่เต้านมหรือเต้านมบวมแดง มีอาการปวดท้องมาก ปวดท้องบิด โดยไม่ได้มีสาเหตุมาจากอาหารการกิน
  • มีอาการเจ็บหรือแสบขัดในขณะถ่ายปัสสาวะ ระดูขาวมีกลิ่นเหม็น น้ำคาวปลามีสีแดงตลอดภายใน 15 วันหลังคลอด โดยปกติแล้วหลังคลอด 3-4 วันแรก น้ำคาวปลาจะออกมาเป็นเลือดสด ๆ แต่หลังจากนี้อีก 10-14 วันจะเป็นน้ำปนเลือด มีสีน้ำตาลดำ แล้วจะค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นน้ำสีขาวออกเหลืองจนหมดไปภายใน 4 สัปดาห์ ถ้าพบว่ามีน้ำคาวปลาออกมาเป็นสีผิดปกติหรือยังเป็นเลือดอยู่ก็อาจมาจาก 2 สาเหตุ คือ ยังมีเศษรกค้างอยู่ หรืออาจเกิดจากการอักเสบติดเชื้อของโพรงมดลูก มีเลือดออกทางช่องคลอด ภายใน 1 ชั่วโมงชุ่มผ้าอนามัย 1 แผ่น และเลือดที่ออกมามีลักษณะเป็นก้อน มีหนองหรือมีเลือดไหลจากแผลฝีเย็บ หรือแผลฝีเย็บบวมแดงมากขึ้นจนมีอาการปวดถ่วงไปถึงทวารหนัก

หากพบอาการอย่างใดอย่างหนึ่ง ต้องรีบไปพบแพทย์


บทความโดย

นพ.ปราโมทย์   เชิดรัตนรักษ์
นพ.ปราโมทย์ เชิดรัตนรักษ์

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา


บทความน่ารู้

เตรียมความพร้อม...ก้าวเข้าสู่วัยทอง

เตรียมความพร้อม...ก้าวเข้าสู่วัยทอง

ถ้าพูดถึงวัยทอง แต่ละคนนั้นอาจเกิดขึ้นไม่พร้อมกัน โดยสามารถเริ่มต้นที่อายุประมาณ 40 ปีขึ้นไป  แต่ความเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนจะเกิดขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป ตั้งแต่ช่วงกลางอายุ 30 ปี และจะแปรปรวนแบบสังเกตได้ชัดเจน เมื่อคุณอายุประมาณ 40 ปี

การผ่าตัดเนื้องอกมดลูก (Myomectomy)

การผ่าตัดเนื้องอกมดลูก (Myomectomy)

การผ่าตัดเนื้องอกมดลูก เป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้หญิงที่มีปัญหาจากเนื้องอกมดลูก เช่น มีเลือดออกมากผิดปกติ ปวดท้องมาก