ผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์แล้วไม่ว่าอายุเท่าไรก็ตาม และผู้หญิงที่ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์มาก่อน อายุ 35 ปีขึ้นไป แนะนำให้ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกปีละ 1 ครั้ง เพราะเป็นการตรวจเพื่อหาระยะก่อนเป็นมะเร็งปากมดลูกซึ่งสามารถรักษาให้หายขาดได้ 100% รวมทั้งการตรวจควบคู่กับการอัลตราซาวด์ช่องท้องส่วนล่างเพื่อตรวจดูรายละเอียดที่ตัวมดลูก และรังไข่ เช่น สามารถตรวจดูเนื้องอกที่มดลูก ถุงน้ำที่รังไข่ เป็นต้น เพราะถ้าตรวจภายในและเช็คมะเร็งปากมดลูกอย่างเดียวจะไม่เห็น
สาเหตุของโรคมะเร็งปากมดลูก
สาเหตุการเกิดมะเร็งปากมดลูกส่วนใหญ่ เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเอชพีวี หรือ HUMAN PAPPILOMA VIRUS (HPV) ซึ่งมี ประมาณ 100-200 สายพันธ์ุ แต่มีประมาณ 15 สายพันธ์ุที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งปากมดลูก โดยเฉพาะสายพันธ์ุที่มีความเสี่ยงสูงต่อมะเร็งปากมดลูกคือ 16 และ 18 เป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูกประมาณ 70 % ของมะเร็งปากมดลูกทั้งหมด
การติดเชื้อไวรัสเอชพีวี (HPV) ซึ่งมักจะติดต่อจากการมีเพศสัมพันธ์ และนอกจากนั้น ยังสามารถติดต่อทางการสัมผัสได้ด้วย (แต่จะเป็นลักษณะเหมือนพาหะที่นำพาเชื้อไปสู่ช่องคลอดได้) ซึ่งเป็นที่มาว่าคนที่ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ก็เป็นมะเร็งปากมดลูกได้ ซึ่งเป็นที่มาว่าคนที่ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ก็เป็นมะเร็งปากมดลูกได้
โดยในสตรีที่มีเพศสัมพันธ์แล้ว 80-90% จะเคยติดเชื้อไวรัสเอชพีวี แม้ว่าจะเป็นสามีภรรยาเพียงคู่เดียว คือทั้งฝ่ายหญิงและฝ่ายชายไม่เคยมีเพศสัมพันธ์กลับคนอื่นมาก่อนก็ตาม ซึ่ง 90 % ของคนที่ติดเชื้อไวรัสเอชพีวี จะหายเองโดยไม่มีอาการอะไร เนื่องจากถ้าเป็นสายพันธ์ที่ความเสี่ยงต่ำ ร่างกายจะกำจัดเชื้อไปเองเหมือนการติดเชื้อไวรัสทั่วไป แต่ถ้าเป็นสายพันธ์ที่มีความเสี่ยงสูงก็จะใช้เวลา 10-15 ปี ในการพัฒนาไปเป็นมะเร็งปาดมดลูก จึงทำให้พบคนที่เป็นมะเร็งปากมดลูกตอนอายุ 30-40 ปีเป็นต้นไป
ปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งปากมดลูก
ผู้หญิงและผู้ชายทุกคนมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสเอชพีวี โดยเฉพาะคนที่มีเพศสัมพันธ์แล้ว โดยมีปัจจัยเสี่ยงดังนี้
สัญญาณเตือนที่ต้องระวัง
การป้องกันมะเร็งปากมดลูก แบ่งเป็น 2 แบบ
1. การป้องกันแบบปฐมภูมิ คือหมายถึงการป้องกันก่อนการติดเชื้อไวรัส เอชพีวี นั่นเอง ก็คือการฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก ซึ่งมีมาประมาณ 20 กว่าปีแล้ว ปัจจุบันมีอยู่ 3 ชนิด คือ
1.1 ชนิดป้องกัน 2 สายพันธ์ คือป้องกันสายพันธ์ 16 และ 18 ซึ่งป้องกันได้ประมาณ 70%
1.2 ชนิดป้องกัน 4 สายพันธ์ คือป้องกันสายพันธ์ 6,11,16,18 ซึ่งป้องกันได้ประมาณ 70%
1.3 ชนิดป้องกัน 9 สายพันธ์ คือป้องกันสายพันธ์ 6,11,16,18,31,33,45,52,58 ซึ่งป้องกันได้ประมาณ 90%
โดยสามารถเริ่มฉีดได้ที่อายุ 9 ปี ทั้งหญิงและชาย โดยจะได้ประโยชน์สูงที่สุดคือฉีดก่อนการมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก แต่ในคนที่มีเพศสัมพันธ์แล้วก็สามารถฉีดได้เช่นกัน โดยส่วนใหญ่ ในคนที่มีเพศสัมพันธ์แล้วก่อนฉีดวัคซีน สูตินรีแพทย์มักจะแนะนำให้ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกก่อนฉีด
2. การป้องกันแบบทุติยภูมิ ก็คือการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก นั่นเอง ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการตรวจคัดกรองหาระยะก่อนเป็นมะเร็งปากมดลูกซึ่งสามารถรักษาให้หายได้ 100%
โดยแนะนำสตรีที่มีเพศสัมพันธ์แล้วไม่ว่าจะอายุเท่าไร ควรตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกปีละ 1 ครั้ง
และถ้าเป็นสตรีที่ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ อายุ 35 ปีชึ้นไปก็ควรตรวจปีละ 1 ครั้ง
ส่วนในผู้ชาย มีการคัดกรองเชื้อเอชพีวีโดยตรวจจากปัสสาวะเท่านั้น ยังไม่มีการคัดกรองที่อวัยวะเพศเหมือนในผู้หญิง
2.1 Conventional pap smear คือการตรวจวิธีดั้งเดิม คือใช้ไม้พายขนาดเล็กป้ายเซลจากปากมดลูกมาป้ายบนแผ่นสไลด์ ซึ่งจะเก็บเซลล์ได้แค่ 20 % แล้วไปย้อมสี ตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์ ซึ่งประสิทธิภาพไม่ดี
2.2 Liquid base pap test คือการใช้เครื่องมือที่มีขนาดเล็กลง คล้ายแปรงเพื่อการเก็บเซลล์ได้ดีขึ้น มากขึ้นแล้วนำมาแช่ในน้ำยารักษาสภาพเซลล์ แล้วนำไปผ่านเครื่องตรวจ ประสิทธิภาพดีขึ้น 70-80%
2.3 Co-testing คือการตรวจ Liquid base pap test + HPV DNA testing หรือคือการตรวจ pap test คู่กับการตรวจดูดีเอ็นเอของไวรัสเอชพีวี ซึ่งประสิทธิภาพจะเพิ่มเป็น 90-95 % โดยถ้าตรวจ Co-testing แล้ว และผลปกติ สามารถตรวจ HPV DNA testing 3 ปี/ครั้งได้
2.4 Urine HPV คือการเก็บปัสสาวะเพื่อตรวจคัดกรองหาเชื้อไวรัสเอชพีวี ซึ่งเหมาะกับการคัดกรองเชื้อเอชพีวีในผู้ชาย และใช้คัดกรองในผู้หญิงที่ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ที่กังวลต่อการตรวจเช็คมะเร็งปากมดลูกดังที่กล่าวมาแล้ววัตถุประสงค์ของการตรวจนี้เพื่อให้สตรีที่กลัว กล้ามาตรวจคัดกรองมากขึ้น แต่ประสิทธิภาพของการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกก็ยังคงดีกว่า และไม่สามารถนำมาทดแทนกันได้ แนะนำมาพบและปรึกษาสูตินรีแพทย์จะดีที่สุด
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา
เป็นภาวะเสื่อมสภาพของกระดูกอ่อนที่ข้อเข่า มักพบในวัยกลางคนหรือผู้สูงอายุ แต่ในปัจจุบันสามารถพบในคนอายุน้อยมากขึ้นได้
Copyright @ 2021. All Rights Reserved By Intrarat Hospital