1.การดริปวิตามินคืออะไร ?
การดริปวิตามินหรือการให้สารวิตามินทางหลอดเลือดดำนั้น เป็นการเติมวิตามินให้กับร่างกายโดยตรง ซึ่งปกติแล้ววิตามินที่เราได้รับจากการรับประทานอาหารอาจจะยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย แม้จะมีการรับประทานวิตามินเสริม แต่ร่างกายไม่สามารถดูดซึมเข้ากระแสเลือดได้หมดทั้ง 100% ในขณะที่การดริปวิตามินเข้าหลอดเลือดดำโดยตรงจะทำให้วิตามินเข้าสู่กระแสเลือดได้ทั้งหมด จึงเหมาะกับผู้ที่มีแนวโน้มขาดวิตามินรวมไปถึงผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพ
2.การดริปวิตามินช่วยอะไร ?
ปัจจุบันมีสูตรการดริปวิตามินมากมาย แตกต่างกันที่ส่วนประกอบในสูตรต่างๆ โดยมีการพัฒนาสูตรให้ตรงกับปัญหาและความต้องการของผู้รับบริการ เช่น ดูแลผิว เสริมภูมิคุ้มกัน ต้านสารอนุมูลอิสระ ขับโลหะหนัก ลดความเหนื่อยล้า เป็นต้น
3. การดริปวิตามินเหมาะกับใคร ?
การดริปวิตามินมีประโยชน์ทั้งในผู้ที่สุขภาพแข็งแรงแต่ต้องการดูแลร่างกายอยู่เสมอ เนื่องจากในสภาวะแวดล้อมปัจจุบันมีสารอนุมูลอิสระมากมายที่จะทำให้ร่างกายเสื่อมโทรมเร็วขึ้น รวมไปถึงผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ อ่อนเพลีย อาจจะมีภาวะการขาดวิตามินจากการใช้ชีวิตประจำวัน รับประทานอาหารไม่ครบ 5 หมู่ ไม่รับประทานวิตามินเสริม ซึ่งขั้นตอนการดริปวิตามินก็ไม่ยุ่งยาก ใช้เวลาเพียง 30-60 นาที ต่อครั้ง
4. การดริปวิตามินไม่เหมาะกับใคร ?
การดริปวิตามินอาจจะไม่เหมาะกับผู้ที่มีโรคประจำตัวบางชนิด เช่น โรคไต โรคหัวใจ ผู้ที่มีประวัติแพ้วิตามินหรือส่วนประกอบ รวมไปถึงหญิงที่อยู่ระหว่างตั้งครรภ์และให้นมบุตร หากประสงค์จะเข้ารับบริการควรปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้ง
5. ข้อเสียของการดริปวิตามิน
การดริปวิตามิน แทบไม่มีข้อเสียเลย นอกจากความเจ็บเล็กน้อยจากการเปิดเส้นเลือดดำตอนแรก และอาจมีรอยเข็มหรือรอยเลือดออกใต้ผิวได้เล็กน้อยซึ่งพบได้ในผู้รับบริการบางราย หลังจากให้สารวิตามินทางเส้นเลือดดำแล้ว ผู้รับบริการสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ
6. อันตรายที่ควรรู้จากการดริปวิตามิน
อันตรายที่เกิดขึ้นจากการดริปวิตามิน มักพบเมื่อมีการทำหัตถการนอกสถานพยาบาลหรือผู้ทำหัตถการไม่ใช่แพทย์หรือบุคลากรทางการแพทย์ รวมไปถึงการใช้ยาที่ไม่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา ไม่ว่าจะเป็นยาหิ้วหรือยาปลอม นอกจากนี้การดริปวิตามินอาจไม่เหมาะกับผู้ที่มีโรคประจำตัวบางชนิด ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับบริการ
7.การเตรียมตัวก่อนดริปวิตามิน
ผู้รับบริการแทบไม่ต้องเตรียมตัวอะไรเป็นพิเศษเพื่อมาดริปวิตามิน แนะนำให้นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารมาให้เรียบร้อย หากผู้รับบริการกังวลเรื่องรอยเลือดใต้ผิว อาจงดการรับประทานวิตามินที่ทำให้เลือดออกหยุดยากก่อนเข้ารับบริการ เช่น วิตามินอี น้ำมันปลา แป๊ะก๊วย เป็นต้น
8. ขั้นตอนการฉีดวิตามินผิว
ผู้ประสงค์จะเข้ารับบริการควรพบแพทย์เพื่อปรึกษาถึงปัญหาและความต้องการ เพื่อเลือกสูตรการดริปวิตามินที่เหมาะสม จากนั้นผู้เข้ารับบริการจะได้รับการดริปวิตามินเข้าหลอดเลือดดำในพื้นที่ให้บริการโดยเฉพาะ ซึ่งไม่พลุกพล่านวุ่นวาย เพื่อความผ่อนคลายและความเป็นส่วนตัวในขณะรับบริการ โดยใช้ระยะเวลาในการดริปวิตามินประมาณ 30-60 นาที
9. การดูแลตนเองหลังดริปวิตามิน
ภายหลังจากการดริปวิตามิน ควรกดสำลีแห้งในบริเวณที่ทำการเปิดหลอดเลือดดำทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที เพื่อป้องกันเลือดออกใต้ผิวแล้วเกิดรอยฟกช้ำ หลังจากนั้นผู้รับบริการสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและเลเซอร์
โรคที่พบได้บ่อยมากขึ้นทุกปี โดยจากสถิติของประเทศไทยล่าสุดพบว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้เสียชีวิตเป็นอันดับที่สามของผู้ป่วยที่เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง รองจากมะเร็งปอด
หลายคนอาจมองว่าเลือดกำเดาไหลนั้นเป็นเพียงแค่อาการผิดปกติธรรมดา ที่เกิดจากเส้นเลือดฝอยในจมูกแตก จากการแคะจมูก หรืออุณหภูมิในร่างกายที่สูงขึ้น แต่ความจริงที่ทุกคนอาจไม่เคยรู้มาก่อน เลือดกำเดาไหล
Copyright @ 2021. All Rights Reserved By Intrarat Hospital