"มะเร็งปอด ภัยเงียบคร่าชีวิต" สาเหตุอาการ และการตรวจวินิจฉัยมะเร็ง

"มะเร็งปอด ภัยเงียบคร่าชีวิต" สาเหตุอาการ และการตรวจวินิจฉัยมะเร็ง

22/08/2567 16:15:01 | Views: 368

มะเร็งปอด คือ โรคมะเร็งที่เกิดขึ้นในปอด ซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญในระบบทางเดินหายใจ โดยมีลักษณะเป็นการเจริญเติบโตของเซลล์ผิดปกติที่ไม่สามารถควบคุมได้ เซลล์เหล่านี้สามารถแพร่กระจายไปยังส่วนอื่นๆ ของร่างกายผ่านทางกระแสเลือดและระบบน้ำเหลืองมะเร็งปอดคือโรคมะเร็งที่เกิดขึ้นในปอด ซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญในระบบทางเดินหายใจ โดยมีลักษณะเป็นการเจริญเติบโตของเซลล์ผิดปกติที่ไม่สามารถควบคุมได้ เซลล์เหล่านี้สามารถแพร่กระจายไปยังส่วนอื่นๆ ของร่างกายผ่านทางกระแสเลือดและระบบน้ำเหลือง


ประเภทของมะเร็งปอด

1. มะเร็งปอดชนิดเซลล์ไม่เล็ก (Non-Small Cell Lung Cancer - NSCLC)

-Adenocarcinoma : เป็นชนิดที่พบบ่อยที่สุด มักเกิดในบริเวณขอบปอดและในผู้ที่สูบบุหรี่และไม่สูบบุหรี่

-Squamous Cell Carcinoma : มักเกิดในส่วนกลางของปอดใกล้กับหลอดลม และสัมพันธ์กับการสูบบุหรี่

-Large Cell Carcinoma : ชนิดที่พบได้น้อยกว่า มีลักษณะเซลล์ใหญ่และเจริญเติบโตได้เร็ว

2. มะเร็งปอดชนิดเซลล์เล็ก (Small Cell Lung Cancer - SCLC)

-เป็นชนิดที่เจริญเติบโตเร็วและมีแนวโน้มที่จะแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่นๆ ได้ง่าย มักพบในผู้ที่สูบบุหรี่


ใครบ้างที่จะเป็นมะเร็งปอด ?

1. ผู้ที่สูบบุหรี่

-การสูบบุหรี่ : เป็นปัจจัยเสี่ยงหลักในการเกิดมะเร็งปอด ยิ่งสูบบุหรี่มากและนานเท่าไหร่ ความเสี่ยงก็ยิ่งสูงขึ้น

-การสูบบุหรี่ในอดีต : แม้ว่าจะเลิกสูบบุหรี่มานาน แต่ก็ยังมีความเสี่ยงสูงกว่าผู้ที่ไม่เคยสูบบุหรี่

แนะนำการคัดกรองมะเร็งปอดทุกปีด้วย low-dose CT ในผู้ใหญ่อายุ 50-80 ปี ที่มีประวัติสูบบุหรี่ มากกว่าหรือเท่ากับ 20 มวนต่อปี ต่อเนื่องมากกว่า 1 ปี


2. ผู้สัมผัสควันบุหรี่มือสอง (Secondhand Smoke)

-การสัมผัสกับควันบุหรี่จากผู้ที่สูบบุหรี่เป็นประจำ แม้ว่าตนเองจะไม่สูบบุหรี่ ก็สามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งปอดได้

3. ผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งปอด

-หากมีคนในครอบครัว เช่น พ่อแม่ พี่น้อง เป็นมะเร็งปอด ความเสี่ยงในการเป็นโรคนี้ก็จะสูงขึ้น

4. ผู้ที่สัมผัสสารเคมีอันตราย

-แร่ใยหิน (Asbestos): สัมผัสกับแร่ใยหินในที่ทำงานหรือสิ่งแวดล้อม

-ก๊าซเรดอน (Radon): การอยู่ในพื้นที่ที่มีระดับก๊าซเรดอนสูง ซึ่งเกิดจากการสลายตัวของยูเรเนียมในดินและน้ำ

-สารเคมีอื่นๆ: เช่น ไนโตรซามีน (Nitrosamines), เบนซิน (Benzene), โครเมียม (Chromium), และสารเคมีอุตสาหกรรมอื่นๆ

5. ผู้ที่อยู่ในพื้นที่ที่มีมลพิษทางอากาศสูง

-การอยู่ในเมืองหรือพื้นที่ที่มีมลพิษทางอากาศสูงจากยานพาหนะ โรงงานอุตสาหกรรม หรือการเผาไหม้

6. ผู้ที่มีโรคปอดเรื้อรัง

-โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD): โรคเช่น ถุงลมโป่งพองหรือโรคหลอดลมอักเสบเรื้อรัง

-โรคอื่นๆ เช่น วัณโรคปอด

7. ผู้ที่เคยได้รับการรักษาด้วยการฉายรังสี

-การฉายรังสีที่บริเวณทรวงอกสำหรับการรักษาโรคอื่น เช่น มะเร็งเต้านมหรือมะเร็งต่อมน้ำเหลือง

8. ผู้ที่มีประวัติการดื่มแอลกอฮอล์และใช้สารเสพติด

-การดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากและการใช้สารเสพติดอื่นๆ อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งปอด

9. ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ

-ผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น ผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ หรือผู้ที่ได้รับยากดภูมิคุ้มกัน เช่น หลังการปลูกถ่ายอวัยวะ

สาเหตุของมะเร็งปอด

  1. การสูบบุหรี่: เป็นปัจจัยเสี่ยงหลัก โดยมีสารก่อมะเร็งมากกว่า 70 ชนิดในบุหรี่ ผู้ที่สูบบุหรี่มีโอกาสเป็นมะเร็งปอดมากกว่าผู้ที่ไม่สูบถึง 15-30 เท่า
  2. การสูดดมควันบุหรี่มือสอง (Secondhand Smoke): ผู้ที่อยู่ใกล้ชิดกับผู้สูบบุหรี่ก็มีความเสี่ยงสูง
  3. การสัมผัสสารเคมีและมลพิษ: เช่น แร่ใยหิน (Asbestos), ก๊าซเรดอน, และสารเคมีในโรงงาน
  4. ประวัติครอบครัว: ผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งปอดมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น
  5. มลพิษทางอากาศ: การอยู่ในพื้นที่ที่มีมลพิษทางอากาศสูง
  6. โรคปอดเรื้อรัง: เช่น โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งปอด


อาการของมะเร็งปอด

    อาการของมะเร็งปอดมักไม่ชัดเจนในระยะแรก แต่อาจมีอาการดังต่อไปนี้เมื่อโรคพัฒนามากขึ้น:

  1. ไอเรื้อรัง: ไอที่ไม่หายไปหรือแย่ลง
  2. ไอเป็นเลือด: แม้จะเป็นปริมาณเล็กน้อยก็ตาม
  3. หายใจลำบาก: หรือหายใจเสียงดัง, หอบ
  4. เจ็บหน้าอก: ที่รุนแรงขึ้นเมื่อหายใจลึกๆ, ไอ, หรือหัวเราะ
  5. น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ: หรือเบื่ออาหาร
  6. เหนื่อยง่าย: หรือรู้สึกอ่อนเพลียตลอดเวลา
  7. เสียงแหบ: หรือเสียงเปลี่ยน
  8. ติดเชื้อในปอดบ่อย: เช่น ปอดบวม, หลอดลมอักเสบ
  9. ปวดกระดูก: โดยเฉพาะที่หลังหรือสะโพก


การตรวจวินิจฉัยมะเร็งปอด

    การตรวจวินิจฉัยมะเร็งปอดประกอบด้วยหลายวิธี เพื่อให้การวินิจฉัยแม่นยำและระยะของโรคชัดเจน:

  1. การตรวจภาพรังสีทรวงอก (Chest X-ray): เป็นการตรวจเบื้องต้นเพื่อดูความผิดปกติในปอด
  2. การตรวจด้วยเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT Scan): เพื่อดูรายละเอียดและตำแหน่งของก้อนเนื้อ
  3. การตรวจเสมหะ (Sputum Cytology): วิเคราะห์เซลล์จากเสมหะหรือน้ำลายเพื่อหามะเร็ง
  4. การส่องกล้องตรวจปอด (Bronchoscopy): ใช้กล้องส่องเข้าไปในปอดเพื่อดูและเก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อ
  5. การตรวจชิ้นเนื้อ (Biopsy): เก็บเนื้อเยื่อจากปอดเพื่อตรวจสอบเซลล์มะเร็ง
  6. การตรวจด้วยเอกซเรย์ปล่อยพลังงานแม่เหล็ก (MRI): ใช้เพื่อดูรายละเอียดเนื้อเยื่อที่ลึกกว่าการตรวจด้วยเอกซเรย์คอมพิวเตอร์
  7. การตรวจเพทซีที (PET Scan): เพื่อตรวจดูการกระจายของมะเร็งไปยังส่วนอื่นๆ ของร่างกาย


การป้องกันและรักษา

การป้องกันมะเร็งปอดเน้นที่การลดความเสี่ยง เช่น เลิกสูบบุหรี่, หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับควันบุหรี่มือสองและสารเคมีอันตราย สำหรับการรักษามะเร็งปอดนั้นขึ้นอยู่กับระยะของโรคและสุขภาพของผู้ป่วย อาจประกอบด้วยการผ่าตัด, เคมีบำบัด, รังสีบำบัด, การรักษาด้วยยาภูมิคุ้มกัน, และการรักษาด้วยยามุ่งเป้า

หากมีอาการที่สงสัยว่าเป็นมะเร็งปอดหรือมีปัจจัยเสี่ยงสูง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจและวินิจฉัยที่เหมาะสม


บทความน่ารู้

ปวดหูบ่อย ปล่อยไว้อันตรายแน่

ปวดหูบ่อย ปล่อยไว้อันตรายแน่

ปวดหู เป็นอาการปวดบริเวณหูข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้ง 2 ข้างพร้อมกัน อาจปวดในลักษณะตื้อ ๆ เจ็บแปลบ หรือรู้สึกแสบร้อน ซึ่งอาการปวดส่วนใหญ่จะอยู่ไม่นานแล้วค่อย ๆ ดีขึ้นจนหายไป มักพบได้บ่อยในเด็กมากกว่าผู้ใหญ่ และปวดหูเกิดจากอะไรได้บ้าง เรามีคำตอบ

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ STD

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ STD

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์สามารถติดต่อได้ระหว่างผู้มีเชื้อกับผู้รับเชื้อผ่านการมีเพศสัมพันธ์ รวมถึงการสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ที่มีเชื้อ เช่น อสุจิ เลือด น้ำในช่องคลอด รวมทั้งยังสามารถติดต่อจากแม่สู่ทารกในครรภ์ หรือการใช้เข็มฉีดยาร่วมกันในผู้ติดสารเสพติด