วิธีการใส่บอลลูนในกระเพาะอาหารสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักโดยไม่ต้องผ่าตัด
ซึ่งจะทำให้รู้สึกอิ่มเร็วขึ้นและจะทำให้รับประทานอาหารได้ลดลง ซึ่งวิธีนี้มีมานานแล้วและเป็นที่ยอมรับในต่างประเทศ การใส่บอลลูนจะเหมือนส่องกล้องกระเพาะอาหารทั่วไปหลังจากนั้นจะใส่น้ำที่ผสมกับ สารสีฟ้าเรียกว่า เมธิลีนบลู เข้าไปในบอลลูนประมาณ 400 ถึง 500 ซีซี แล้วจึงนำกล้องออก โดยบอลลูนสามารถปรับขนาดเพิ่มหรือลดได้ตามความต้องการในภายหลัง สามารถใส่บอลลูนนานสูงสุด 1 ปีแต่หากพอใจในน้ำหนักที่ลดลงก็สามารถเอาบอลลูนออกก่อน 1 ปีได้ โดยปล่อยน้ำในบอลลูนออกและส่องกล้องเพื่อนำบอลลูนออกจากกระเพาะอาหาร
1. BMI ที่เหมาะกับการใส่บอลลูน
ประมาณ 27 และไม่เกิน 50 การใส่บอลลูนในครั้งแรกควรปรับขนาดบอลลูน 500 ซีซี ซึ่งถ้ารูปร่างคนไข้ไม่สูงใหญ่มากอาจจะปรับขนาด 400 ถึง 450 ซีซี
2. การเตรียมตัวก่อนใส่บอลลูน
- กินยาลดกรด (PPI) ก่อนอาหารเช้าและเย็น 14 วัน
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด
- ตรวจ EKG / Lab Pre Operation
- ส่องตรวจกระเพาะอาหารเพื่อดูความพร้อมของกระเพาะอาหาร
3. การปฏิบัติตัวหลังใส่บอลลูน
- Admit 2 วัน (อาการคลื่นไส้ อาเจียนประมาณ 2-3 วันแรก เป็นอาการปกติ)
- กินยาแก้อาเจียน
- แจ้งโภชนาการให้คนไข้ทราบ 1-7 วันแรก ให้รับประทานอาหารเหลวเช่น ซุป,ต้มจืด,น้ำผลไม้,นม,โยเกิร์ต ซึ่งอาหาร ต้องไม่ร้อนจัดหรือเย็นจัดเกินไป
- แจ้ง Follow up กับแพทย์เดือนละ 1 ครั้ง
- แจ้งปรับเพิ่มขนาดบอลลูนเมื่อครบ 6 เดือน หรืออาจจะปรับเพิ่มเร็วกว่านั้นหากน้ำหนักเริ่มคงทื่
4.รายละเอียด Package
- Admit 1-2 วัน
- ค่าแพทย์
- ค่าอุปกรณ์การแพทย์
- ค่ายา
- ค่าส่องกล้องเพื่อใส่บอลลูนและถอดบอลลูน (อาจจะรวมหรือไม่รวมการปรับเพิ่มขนาดบอลลูน)
- Follow up เพื่อดูน้ำหนักและสัดส่วนเดือนละ 1 ครั้ง
5. ข้อแนะนำ
- คนไข้ที่เป็นโรคระบบทางเดินอาหารและเคยผ่าตัดในระบบทางเดินอาหารไม่แนะนำให้ใส่บอลลูน
การตรวจคัดกรองโครโมโซมทารกในครรภ์ เป็นการตรวจความผิดปกติทางโครโมโซม ซึ่งเป็นสาเหตุของกลุ่มอาการทางพันธุกรรมต่าง ๆ เช่น กลุ่มอาการดาวน์ กลุ่มอาการเอ็ดเวิร์ดส์ กลุ่มอาการพาทัวร์ และกลุ่มอาการโรค...
คุณรู้หรือไม่ว่า หากอาการปวดประจำเดือนที่เคยเป็น ค่อยๆ ทวีความรุนแรงขึ้น นั่นอาจเป็นสัญญาณเตือนของ “โรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่”
Copyright @ 2021. All Rights Reserved By Intrarat Hospital